บริษัท สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) นำโดย  คุณชวัล เจียรวนนท์  ซีอีโอหนุ่มไฟแรง  เดินหน้าต่อยอด แอปพลิเคชัน Snapask แอปฯติวเตอร์ ออนไลน์ส่วนตัวสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยม เพื่อติวสอบ สอนการบ้าน ไขปัญหาและข้อสงสัยต่าง ๆ ในห้องเรียน ได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง  ชูกลยุทธ์เด่น HUMAN SOLUTION  เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้แบบส่วนตัวมากขึ้น เตรียมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อช่วยน้อง ๆ นักเรียน ให้มีชีวิตการเรียนที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วย 3 ฟีเจอร์ใหม่  

 

“Quiz” ศูนย์กลางการรวบรวมโจทย์การบ้าน แบบทดสอบต่าง ๆ มาไว้ในแอป ฯ ที่เดียว เพื่อน้อง ๆ สามารถเข้ามาทดลองทำแบบทดสอบต่าง ๆ กันได้ฟรี ๆ ในแอปฯ

“QA Time Base” การจองเวลาติวเตอร์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับการเรียกร้องเป็นอย่างมากจากน้อง ๆ ที่ใช้แอปฯ

“Academy” เป็น One stop service เน้นการสรุปบทเรียน การสอน การติว แชร์หลักการในการคิดและแก้โจทย์ต่าง ๆ ตอบคำถาม และให้โจทย์ตัวอย่าง ซึ่งถือเป็นการติวแบบตัวต่อตัวและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยในเบื้องต้นจะเริ่มจากระดับชั้นมัธยม 4 ก่อน

 

 

ชวัล เจียรวนนท์ ซีอีโอ สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ สำหรับก้าวปีแรกในประเทศไทย ของ สแนปอาส์ค นั้น ปัจจุบันเรามีน้อง ๆ นักเรียนเข้ามาใช้บริการกว่า 420,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนจากหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต หรือแม้แต่น้องที่อยู่บนเกาะก็มีเข้ามาใช้งาน รวมไปถึงนักเรียนในกรุงเทพฯ ด้วย เรามีติวเตอร์คุณภาพที่ทางเราคัดสรร อยู่บนแพลตฟอร์มเราถึงกว่าพันคน  มีทั้งติวเตอร์ที่เป็นนักเรียนทุนรัฐบาล นักเรียนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรดี มีคุณภาพ ที่สามารถพูดคุยให้คำปรึกษานักเรียนเป็นภาษาเดียวกัน หรือแม้กระทั่งคุณครูเกษียณอายุ ที่ตั้งใจนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาสอนและตอบคำถามแบบตรงจุด การถามคำถามเหล่านี้ผ่านแอปฯ เสมือนการย่อโลกการศึกษาให้เล็กลงมาใกล้ตัวยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะกับนักเรียนในยุค 4.0 นี้ ที่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการเรียนในห้องเรียนอีกด้วย ความโดดเด่นของแอปฯ นี้ คือการเปิดให้ถามคำถามตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการทำงานของแอปฯ จะมีระบบ อัลกอริทึ่มอัจฉริยะเชื่อมโยงติวเตอร์ที่เชี่ยวชาญในวิชานั้น ๆ มาตอบภายใน 1 นาทีแบบตัวต่อตัวและอธิบายจนเข้าใจ”

 

“และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายมียอดผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้  เราใช้แนวคิด HUMAN SOLUTION ที่เน้นการเรียนรู้แบบส่วนตัว ที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารระหว่างบุคคลมากยิ่งขึ้น เรายังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ ตอบโจทย์ความต้องการของน้อง ๆ ให้มีความสุขในการเรียนมายิ่งขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น การรวบรวมข้อมูล แบบทดสอบในวิชาต่าง ๆ มาให้น้อง ๆ ได้ตะลุยทำโจทย์กันแบบฟรีๆ ในแอปฯเรา และเพื่อมอบความสะดวกเพื่อไม่ให้การติวกับติวเตอร์สะดุด สแนปอาส์ค ยังเพิ่ม ฟีเจอร์การจองคิวติวเตอร์ ซึ่ง น้อง ๆ เรียกร้องมามาก และฟีเจอร์แบบ one stop service ซึ่งถือเป็นการติวแบบตัวต่อตัวเชิงลึก รวบทั้งการสรุปบทเรียน การสอน  การติว แชร์หลักการในการคิดและแก้โจทย์ต่าง ๆ ตอบคำถาม รวมถึงเพิ่มการให้โจทย์ตัวอย่างเพื่อให้น้อง ๆ  ได้ฝึกฝนทักษะ โดยในเบื้องต้นจะเริ่มจากชั้นมัธยม 4 ก่อน ผมเชื่อมั่นว่า สแนปอาส์ค ของเราน่าจะเป็นสตาร์ทอัพ ด้าน Edu-tech อันดับต้น ๆ ของเมืองไทยที่มีความสมบูรณ์แบบ มีความเข้าใจการเรียน และใกล้ชิดน้อง ๆมัธยมมากที่สุด พูดได้ว่า เป็นแอปฯ ที่ได้รับการตอบรับจากการทดลองใช้งานเป็นอย่างดี มีการบอกต่อ ปากต่อปาก ส่งผลต่อ ยอดคำถามและจำนวนนักเรียนผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น” คุณชวัล กล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก

https://www.whatphone.net/news/snapask-edu-tech/

โควิด-19 มีผลกระทบสองทาง แน่นอนว่าทางแรกคือสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดช่องทางหรือโอกาสใหม่ ๆ สำหรับบางธุรกิจเช่นกันภายใต้การดำเนินชีวิตวิถีใหม่ หนึ่งในนี้คือการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเลกทรอนิกส์ และการนำเทคโนโลยีมาใช้กับระบบการเรียนการสอน (EdTech)

 

การหันมาสนใจเรียนรู้ผ่านสื่ออิเลกทรอนิกส์ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ และส่งผลให้เกิดสตาร์ทอัพขึ้นมากมายเพื่อรองรับโอกาสเหล่านี้ พร้อมไปกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการเรียนการสอนใหม่ๆ ขึ้นมา

 

Yuanfudao สตาร์ทอัพติวเตอร์ออนไลน์ในจีน ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2555 เข้ามาเติมเต็มในช่วงที่ปิดโรงเรียนระหว่างการล็อกดาวน์ในจีน ด้วยการประกาศคอร์สฟรีสำหรับการเรียนการสอนเบื้องต้น ไปพร้อมกับสอนแบบสด ๆ สำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยมทั่วประเทศ ทำให้มีผู้เข้าไปใช้งานหลายล้านคนภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยแทบไม่ต้องเสียเงินโฆษณา

 

ปีที่แล้วนี่เอง ที่ Yuanfudao ระดมทุนไปอีก 2 รอบจนทำให้มูลค่าของบริษัทขึ้นถึง 15,500 ล้านดอลลาร์ แซงหน้า Byju แห่งอินเดีย ขึ้นเป็นธุรกิจเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

 

ขณะที่ในรายของ Byju นั้น มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 20 ล้านยูสเซอร์ภายในเวลาเพียง 4 เดือนหลังจากโควิด-19 ระบาด Byju Raveendran ซึ่งเป็นครูผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพแห่งนี้ บอกว่าโรคระบาดทำให้ผู้คนเริ่มหันมาลองเรียนทางออนไลน์ และพ่อแม่ก็ยอมรับการเรียนทางออนไลน์มากขึ้น โดยวิธีการติวของ Byju มุ่งเน้นให้เด็กเข้าใจด้วยการนำสิ่งของหรือเรื่องราวในชีวิตประจำวันมาสอน อย่างใช้พิซซ่ามาสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน

 

Byju เปิดคอร์สฟรีทั้งหมดในช่วงโควิด-19 ระบาด เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอน แม้ติวฟรีแต่จำนวนผู้ลงทะเบียนแบบจ่ายเงิน ซึ่งมีมากกว่า 4 ล้านราย ก็ยังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

 

ในส่วนของอังกฤษ มีแพลตฟอร์มติวแบบตัวต่อตัวทางออนไลน์ MyTutor โดยก่อนเกิดโรคระบาดนั้นการศึกษาของ Sutton Trust ระบุว่ากว่า 27% ของเด็กในอังกฤษเรียนพิเศษกับติวเตอร์ จากนั้นเมื่อเกิดโควิด-19 นักเรียนส่วนใหญ่ต้องเรียนจากที่บ้าน พ่อแม่จำนวนมากก็หันมาใช้บริการติวเตอร์ออนไลน์กันมากขึ้น เพื่อไว้เป็นตัวช่วยยามที่ลูกเจอวิชายาก ๆ MyTutor ระบุว่ามีความต้องการติวเตอร์ทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตั้งแต่โรงเรียนปิดสืบเนื่องจากโควิด-19

 

สำหรับในอนาคต เมื่อเด็ก ๆ สามารถกลับเข้าเรียนที่โรงเรียนได้หลังจากการระบาดบรรเทาลง มีการคาดหมายว่าความต้องการติวเตอร์หรือการเรียนการสอนทางออนไลน์ จะยังเพิ่มขึ้น เพราะพ่อแม่มีแนวโน้มจะต้องการคนมาช่วยติววิชาให้ลูก ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ตกหล่นอะไรไปในช่วงที่โรงเรียนต้องปิดบ้างเปิดบ้างระหว่างเกิดโรคระบาด

 

อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก

https://www.businesstoday.co/world/world-politics/10/01/2021/58384/